วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

The Order 1886 : คิดถูกมั้ยที่คุณจะซื้อภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในราคา 1,790.-


อ่านหัวข้อแล้วอย่าเพิ่งตกใจนะครับ ว่าเกมมันเกี่ยวข้องอะไรกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ขนาดนั้น ก็เพราะ The Order 1886 เค้าทำเกมให้เหมือนเราได้ดูภาพยนตร์ครับ ทั้งบีบจอให้ Wide มากขึ้น ภาพสวยเหมือนจริง เฟรมเรทล็อคที่ 30 เสียงยิงอลังการ เสียงระเบิดตูมตาม คัทซีนทำได้ยอดเยี่ยม

ถามว่าการทำเกมให้เหมือนดูภาพยนตร์มันดีมั้ย... ก็ดีนะ

แต่เราว่า ซื้อหนังมาดูดีกว่ามั้ย

เพราะ The Order มันไม่ต่างจากการดูหนังเลย มันไม่ใช่เกม ถ้าเป็นเกม มันเป็นเกมตู้ชัดๆ

Gamingdose ไม่เคยโกหก และการรีวิว The Order 1886 ครั้งนี้ก็ไม่โกหกเช่นเดียวกัน




คะแนนอยู่ที่ 4.3 ซึ่งถือว่า "ห่วย" ยอมรับครับว่าเกมนี้ มันห่วยจริง โดยความห่วยของเกม The Order 1886 แยกออกเป็น

1. เกมเพลย์ที่เดินเป็นเส้นตรงสุดๆ

ถ้าจะบอกว่าเกม Final Fantasy XIII เดินเป็นเส้นตรงแล้ว เกมนี้เดินยิ่งกว่าเป็นเส้นตรงซะอีก ถ้าจะเอาเกมนี้ไปเที่ยบก้บ Call Of Duty ทุกๆภาคที่เดินเรื่องเป็นเส้นตรง เกม The Order 1886 ก็พอๆกับ Call Of Duty คือเนื้อเรื่องดี มีหักหมุม แต่ดูแล้วมันก็.... ไม่น่าติดตาม เพราะเกมนี้เน้นอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครมากเกินไป บางทีเสียงหายใจมันก็ดังเกินไปนะเหมือนตัวละครหอบหืดเลย แต่การเอาเกม The Order 1886 ไปเทียบกับ Call Of Duty มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเทียบซักเท่าไร เพราะ COD มีคัทซีนจริงๆแค่ช่วงก่อนเริ่มด่านเท่านั้น แต่คัทซีนระหว่างเล่นเกม เป็นคัทซีนที่เป็นมุมมองบุคคลที่ 1 ทำให้ความตื่นเต้นนั้นมีมากกว่า The Order 1886 หลายเท่า

2. Quick Time Event ที่มันไปตรงกับเกม Laser Disc

เกม Laser Disc คือเกมสมัยโบราณมากๆ ย้ำว่า มากๆ โบราณมากกว่าเกม 8 Bit Famicom ซะด้วย เป็นเกมที่เราต้องซื้อแผ่น Laser Disc และตัว Interactive คอยกด ซึ่งภาพกราฟิคกากๆจะปรากฎที่หน้าจอให้เราได้รู้ว่า เราต้องกดปุ่มโน้นปู่มนี้แล้ว แต่... ถ้ากดพลาด คือความตาย เราก็ต้องเริ่มใหม่ ระบบแบบนี้ กลับมาใช้อีกครั้งกับเกม  The Order 1886 ในเมื่อ Theme เกมโบราณแล้ว ระบบการเล่นก็โบราณอีก แต่กลับไปขายในยุคปัจจุบันทำไมล่ะ

3. Cutscene ที่ข้ามไม่ได้

ด้วยความที่ตัวเกมมันกลายเป็นเกมตู้หรือเกม Casual ทำให้ผมอยากจะเล่นแก้เบื่อเหมือนเกมพวกคุกกี้รันซะเหลือเกิน ไม่ต้องอะไรมาก เล่นตะลุยด่านแบบ Contra แปปเดียวจบ ไม่เป็นไร แต่ผมกลับทำไม่ได้เพราะตัวคัทซีนมันข้ามไม่ได้ เป็นอะไรที่แย่มาก กับการนั่งฟังตัวละครพล่ามใส่กัน บางคัทซีนล่อตั้งครึ่งชั่วโมง ตรงจุดนี้เป็นอะไรที่ Fail สุดๆ

4. ไม่มี Multiplayer ให้เล่นพอเป็นกษัย

ถ้าเนื้อเรื่องจบ เราคงต้องวางแผ่นเอาไว้อย่างนั้นหรือไม่ก็ขายต่อเป็นแผ่นมือสองไป และเกมที่ผมยังเล่นอยู่ ณ ตอนนี้คงมีแค่เกม CODAW เพราะเป็นเกม Multiplayer ทั้งๆที่ผมเล่นจบเมื่อเดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้ว ยอมรับจริงๆกับโหมด Multiplayer ที่ถ้าเกมไหนมี จะยืดระยะเวลาเล่นเกมไปอีกนานแสนนาน จนกว่าภาคใหม่ๆจะออกมา และเกม The Order 1886 กลับไม่มีโหมด Multiplayer ทั้งๆที่ภาพสวย ระบบการยิงการต่อสู้ที่ค่อนข้างมันและหลงใหล แต่การที่ไม่มีโหมด Multiplayer ทำให้เกมนี้จะมีค่าเมื่อเล่นโหมดเนื้อเรื่องยังไม่จบเท่านั้น

แต่จะว่าไป ผู้พัฒนาเกมเค้าคงให้อารมณ์ของเกมเหมือนกับเกมเก่าๆที่เดินเป็นเส้นตรงรึเปล่าไม่ทราบ อย่างเกม Mario, Ninja Gaiden, Contra ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ข้อเสียจะเหลือแค่ "Cutscene ที่ข้ามไม่ได้" เท่านั้นครับ ตรงนี้คือที่สุดของข้อเสียของเกมนี้เลยทีเดียว เพราะเราจะเล่นเกม ไม่ใช่ดู Cutscene ตัวเกมก็ไม่ได้เสียรุนแรงเกินไป ถ้าการบังคับมันห่วย อย่างยิงแล้วลีลา หรือระบบกำบังแย่มาก อันนี้คือ "ห่วย"

สุดท้ายแล้ว เกมนี้ก็ไม่สมควรซื้อมาเล่นอยู่ดี ส่วนใครที่ Pre Order เกมนี้มาเล่นแล้วล่ะก็ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ คุณกับผมก็มีความรู้สึกเหมือนกันเลย 5555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น