วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

เหตุผลที่เราหลงรัก "เกม Call Of Duty"


Call Of Duty คือหนึ่งในเกมที่เกมเมอร์รู้จักกันเป็นอย่างดี โดยชื่อเสียงของมันคือ เป็นเกมที่ออกเป็นรายปี ทุกภาคที่ Call Of Duty ออกมาล้วนบ่งบอกถึงความเป็น Call Of Duty เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเกมนี้จะเล่นมุกซำ้ๆจนนักวิจารณ์บางคนถึงกับเอือมระอา แต่แฟนๆที่หลงรัก Call Of Duty กลับไม่สนใจคำวิจารณ์เหล่านั้น ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเล่นกันต่อไป

แม้แต่ตัวผม เพิ่งมาสัมผัสเกม Call Of Duty จริงๆก็ภาค Advanced Warfare นี่แหละ ใน PS4 ก่อนหน้านั้น ผมเคยเล่นเกม Call Of Duty ใน PC มาก่อน ชื่อเสียงของเกมนี้คือ ใช้ Engine เกมที่ไม่กินสเป็คจนเกินไป และภาพออกมาเกณฑ์ดี แต่ถ้าใครเล่น COD มาจนถึงภาค Black Ops 2 จะพบว่า ทำไมเกมนี้ไม่คิดจะพัฒนา Engine ตัวเกมเลย ใช้แต่ Engine ตัวเดิมตลอด เพราะพอมาปี 2012 กราฟิคต้องพัฒนาพอสมควรแล้ว ภาพกราฟิคของภาค Black Ops 2 เห็นหลายๆคนบอกว่า ใช้ Engine ตัวเดิมกับที่ใช้ในภาค 4 ภาคที่ผมเล่นก็มีภาค 4, MW3, Black Ops, World At War มีแค่ 4 ภาคจริงๆ และแน่นอนว่า 4 ภาคที่เล่น ตัวเกมเป็นแบบไพเรท (เพราะไม่มีเงินซื้อแผ่นแท้นี่นา)

ยังจำภาคนี้กันได้เปล่าเพื่อนๆ

และก็ช่วงทำ Thesis ไม่มีเวลาแตะเกมเลยแม่แต่นิดเดียว ทำให้ผมลาจากวงการเกมไปชั่วคราว ภาค Ghost หรือ Black Ops 2  ผมเล่นได้เฉพาะตอนงาน Commart เท่านั้น ที่เค้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เราลองเล่นเกมโดยใช้ Gaming Gear ที่ทางร้านเค้าจัดเอาไว้ให้ แต่ถ้าพูดถึงภาคที่ผมไม่ค่อยชอบเลย คือภาค  Ghost เพราะกราฟิคเข้าขั้นโบราณจริง (คือปี 2013 เป็นหัวเลี้ยงหัวต่อของเครื่องเล่นเกม Console ครับ เพราะปีนี้ PS4 และ Xbox One จัดจำหน่าย) และโบราณไม่พอ ยังกินสเป็คเครื่องอีก

จนกระทั่ง ผมมีโครงการจะแคสเกม โดยเก็บเงินซื้อเครื่อง PS4 มาแคสครับ และช่วงเวลานั้นเอง ผมได้งานทำ และก็มีเกมใหม่มาเล่นทุกๆเดือน และหนึ่งในเกมที่ซื้อคือ Call Of Duty Advanced Warfare

Call Of Duty Advanced Warfare ภาคนี้มีกระโดดลอยฟ้าได้ด้วย

เอาล่ะครับ เล่ามามากแล้ว ทีนี้เรามาแจกแจงเหตุผลที่เราหลงรักเกม Call Of Duty ครับ ว่ามีอะไรบ้าง ทำไมเกมเมอร์หลายๆคนบนโลกนี้ชื่นชอบ Call Of Duty กัน บางคนถึงประกาศตัวเองว่าเป็ฯ Fanboy จะอยู่เคียงข้างเกม Franchise นี้ตลอดไป

1. จะเปลี่ยนแนวยังไง มันก็คือ Call Of Duty



กาลเวลาต่างกัน แต่การเล่นก็เหมือนกัน (ภาพแรก ภาค World at war เกิดช่วงปี 1942-1945 ภาพที่ 2 ภาค Modern Warfare เกิดช่วงปี 1996 - 2011 ภาพที่ 3 ภาค Advanced Warfare เกิดช่วงปี 2050-2060)

ถ้าจะให้เทียบกับเกมอื่นๆ เกม Call Of Duty มีเอกลักษณ์คล้ายๆเกม Rockman ครับ คือมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ถ้าจะเรียกศัพท์วัยรุ่นมันก็คือมีความยูนีคอย่างแท้จริง แม้ว่าตัวเกมจะลอกแนวการเล่นมาจาก Half Life หรือ Quake แต่การผสมอย่างลงตัวของ Call Of Duty ที่มีมาตั้งแต่ภาคแรกๆคือ สามารถวิ่งได้และเล็งยิงได้ รวมถึงแถบ HUD ที่ยังยูนีค หรือในโหมดเนื้อเรื่องที่เนื้อเรื่องเดินเป็นเส้นตรง บางทีมีการหักมุม พอถึงฉากที่ต้องวิ่งหนีอย่างยิ่งใหญ่ก็โผล่ออกมาให้เห็น หรือเนื้อเรื่องจะเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อนาคต ปัจจุบัน ต่อให้ติด Exo Suit มันก็คือ Call Of Duty ที่ออกมากี่ภาค ถ้าเป็นแฟนบอยอย่างแท้จริงจะไม่รู้สึกเบื่อ ก็เหมือนแฟนบอยเกม Rockman อ่ะนะ ออกมากี่ภาค ก็เล่นๆๆๆ ถ้าเกมไหนคิดจะลอกสไตล์การเล่น COD ก็ต้องถูกวิจารณ์ว่า "ลอก Call Of Duty"

2. โหมด Multiplayer ที่เร็วและสะใจวัยรุ่นมากๆ


จุดเด่นของเกม Call Of Duty คือ Multiplayer ที่เร็วและรุนแรงมาก แต่ไม่เท่า Titanfall และ Quake โดยความเร็วของโหมด Multiplayer ทำให้ใครหลายๆคนที่ติดการเล่นเกมที่เอาต้นแบบมาจาก Counter Strike แทบจะตั้งตัวไม่ทันกันเลยทีเดียว เนื่องจากระบบเกม COD มีให้เราวิ่ง และก็เล็งยิง ทำให้การยิงปืนนเกมนี้ออกมามีรสชาติมากยิ่งขึ้น โดยที่เราไม่ต้องมานั่งยองๆยิงแบบเกม Counter Strike เลย แต่ด้วยความเร็วในการเล่นเกม COD มีมากขึ้น ทำให้การเล็งยิงหัวเพื่อให้ได้ Headshot กลับทำได้ยากขึ้น โดยปกติ เกม Counter Strike หากยิงโดนหัว ผู้เล่นคนนั้นจะตายในเกมทันที แต่สำหรับ COD การยิงโดนหัว ถ้าจะตายจริงๆต้องเป็นปืนที่พลังโจมตีแรงพอสมควร เช่นปืนสไนเปอร์ หรือปืนลูกซอง เพราะการยิงแล้วโดนหัวของเกม Call Of Duty พลังโจมตีเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า อาจต้องยิง 2-3 นัดเพื่อให้ผู้เล่นคนนั้นตายในเกมสำหรับปืนที่โจมตีไม่แรงมากนัก

3. Medal ที่มีมากมาย


นอกจากคำว่า Headshot แล้ว ยังมีคำหลายคำที่ใช้ในเกมนี้เมื่อเราได้ Kill ศัตรู เช่น Kingslayer (Kill ผู้เล่นที่คะแนนสูงที่สุดใน Match นั้น), Payback (การ Kill ผู้เล่นที่เคย Kill เราก่อนหน้านั้น เหมือนเอาคืน), Double Kill (Kill ผู้เล่น 2 คนติดต่อกัน ไม่ใช่ Kill ผู้เล่น 2 คนโดยที่เรายังไม่ตาย ไม่เหมือน PB นะ), Rabbit Punch (การโจมตีระยะประชิดด้วยการต่อยใส่ผู้เล่นคนอื่นทางด้านหลัง), Merciless (การ Kill 10 คนโดยที่เรายังไม่ตาย) ฯลฯ ซึ่ง Medal ที่ปรากฎในแต่ละครั้งสร้างความเร้าใจให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมาก

4. Scorestreaks เอกลักษณ์ของเกม COD


Scorestreaks (หรือภาคเก่าๆเรียกว่า Killstreaks) คือการเรียกอุปกรณ์สนับสนุนเพื่อจัดการฝ่ายตรงข้ามหรือทำให้ฝ่ายเราได้เปรียบทีละมากๆ เช่น เรียก UAV หรือติดตั้งป้อมปืน หรือเรียก Missile ยิงจัดการผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งจุดนี้คือจุดเด่นและหาที่ไหนไม่ได้นอกจากเกม COD ยิ่งเราได้ Kill ฝ่ายตรงข้ามเยอะมากเท่าไร เราจะได้เรียกของสนับสนุนที่เก่งมากขึ้นเท่านั้น และเวลาเราใช้ของสนับสนุนจาก Scorestreaks พวกนี้ มันทำให้เรารู้สึกสะใจการเล่นเกมนี้มากขึ้น และทำให้เราติดแหง็กอยู่กับเกมนี้ เพราะอยากจะได้ Scorestreaks ระดับสูงๆ

5. โหมดเกมมีให้เล่นมากมาย (แต่ผู้เล่นก็เลือกโหมด Team Deathmatch หรือ FFA ซะส่วนใหญ่)


โหมดเกมใน Multiplayer มีให้เล่นหลากหลายจริง และโหมดเกมที่ให้เล่น มันก็อยู่ในด่านเดียวกันทั้งนั้น ไม่เหมือนเกม FPS Free to play หลายๆเกมที่จะมี Map เฉพาะโหมด เช่น Map นี้เล่นโหมด Team Deathmatch ได้ แต่พอจะเล่นโหมดวางระเบิด กลับไม่มีให้เลือก Map ที่เล่น Team Deathmatch ได้ซะงั้น ทำให้เราคุ้นเคยในการเล่นยากขึ้น

จาก 5 เหตุผลนี้ทำให้ใครหลายๆคน หลงรัก Call Of Duty ประเภทเล่นได้ทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว แต่เมื่อมีเหตุผลที่หลงรัก ก็ต้องมีเหตุผลที่เราเบื่อ Call Of Duty ซึ่งในช่วงนี้เราไม่ขอเจาะลึกรายละเอียดล่ะกันนะ

1. ตัวเกมอายุสั้น พอครบ 1 ปีก็ออกภาคใหม่ และผู้เล่นก็หนีไปเล่นภาคใหม่ทิ้งภาคเก่าไป
2. DLC มีเยอะ ทำให้ผู้เล่นหนีไปเล่น DLC ใหม่ๆ
3. ไม่เหมาะกับการเล่นใน PC อย่างแรง เพราะผู้พัฒนาไม่ได้เอาใจใส่ผู้เล่น PC มากนัก (PC ไม่ใช่ลูกเมียน้อยแต่เป็นลูกกำพร้า)
4. ใช้ระบบ Host ในการเข้าห้องเล่นเกม ไม่ใช่ Dedicated Server แบบ Battlefield
5. ผู้เล่น PC ไม่สามารถเล่นกับผู้เล่น PS4 หรือ Xbox One ได้ และผู้เล่น PS4 ก็ไม่สามารถเล่นร่วมกับ PC หรือ Xbox One ได้ และ Xbox One ไม่สามารถเล่นร่วมกับผู้เล่น PC หรือ PS4 ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น